Porter’s competitive forces model
สภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาในการวางแผนกลยุทธ์ของบริษัท
การวางแผนกลยุทธ์จะไม่ประสบความสำเร็จ หากปราศจากการวิเคราะห์ สภาวะแวดล้อม
ความรุนแรงของการแข่งขัน และอุตสาหกรรมหรือตลาดเป้าหมาย การวิเคราะห์แรงกระทบทั้ง 5 จะช่วยให้เข้าใจถึงโครงสร้าง
แนวโน้มหลัก และแรงกระทำต่างๆ
ที่จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรในอุตสาหกรรมหรือตลาดเป้าหมาย
ช่วยให้ทราบถึงจุดแข็งและจุดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมและคู่แข่ง
เห็นภาพแนวโน้มและภัยคุกคามในอุตสาหกรรม และทราบว่าอุตสาหกรรมกำลังจะโตขึ้นหรือถดถอยลง
สิ่งที่ต้องมีวิเคราะห์ใน 5 Forces Model มีอะไรบ้าง?
1. ภัยคุกคามจากคู่แข่งหน้าใหม่(Threat of new entrants) – คุณต้องดูว่าคู่แข่งหน้าใหม่สามารถเข้ามาทำธุรกิจแข่งขันกับคุณได้ง่ายหรือไม่
ซึ่งการมีคู่แข่งเข้ามาทำธุรกิจเดียวกับคุณเยอะๆผลเสียที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือผลกำไรที่จะลดลง
ลองจินตนาการว่าตลาดคือเค้กก้อนหนึ่ง จากเดิมมีคนที่กินเค้กก้อนนั้นอยู่แค่สามคน
ทุกคนกินอิ่ม ถึงแม้ว่าแต่ละคนจะได้กินไม่เท่ากัน แต่ก็ยังอิ่ม
แต่พอมีคนมาร่วมวงมากขึ้น ส่วนแบ่งของแต่ละคนก็เริ่มได้น้อยลงเพราะมีตัวหารมากขึ้น
จากที่ทุกคนเคยอิ่ม
กลับกลายเป็นต้องแข่งขันกันว่าใครจะกินเค้กได้ไวกว่าเพื่อให้ตัวเองอิ่ม
แน่นอนคนที่เร็วกว่า(แข็งแรงกว่า)ย่อมกินอิ่มก่อนคนที่ช้ากว่าเสมอ
ปัจจัยที่ชี้ว่าภัยคุกคามจากคู่แข่งหน้าใหม่ในธุรกิจโรงแรมจะมากหรือน้อยอาจมีได้ดังนี้
อัตราการทำกำไรของธุรกิจ
นโยบายของรัฐ
โครงสร้างต้นทุน
เงินลงทุน
ความแตกต่างของสินค้า(โรงแรม)
ความจงรักภักดีของลูกค้า
2. ภัยคุกคามจากสินค้าทดแทน(Threat of substitutes) – สินค้าของคุณสามารถถูกทดแทนโดยสินค้าอื่นได้ไหม
แล้วผลลัพท์เหมือนกันหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์น้ำอัดลม Pepsi Vs. Coke เวลาไปร้านอาหารถ้าอยากดื่มอย่างหนึ่ง แต่มีอีกอย่าง
เราก็สามารถดื่มแทนได้โดยไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง
ลูกค้าโรงแรมก็อาจจะคิดเหมือนกันเมื่อเปรียบเทียบโรงแรมคุณกับธุรกิจห้องพักชนิดอื่นๆ
ลองดูว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อภัยคุกคามของสินค้าทดแทน
ราคา
ความง่ายในการเปลี่ยน
ต้นทุนในการเปลี่ยน
คุณภาพ
จำนวนทางเลือกของลูกค้า
แนวโน้มผู้บริโภค
3. อำนาจต่อรองของลูกค้า(Bargaining power of buyers) – ลูกค้ามีอำนาจมากแค่ไหนที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณ
มีปัจจัยใดบ้างที่ลูกค้ามีอำนาจในการกำหนดสิ่งต่างๆให้คุณต้องทำตามหรือเปลี่ยนแปลงเพื่อรักษาและดึงดูดลูกค้า
ซึ่งปัจจัยอาจมีดังนี้
อัตราจำนวนลูกค้าต่อจำนวนโรงแรมในตลาด
ความอิงอยู่กับช่องทางการขายใดช่องทางหนึ่ง
ต้นทุนการเปลี่ยนใจของลูกค้า
ข้อมูลที่ลูกค้ามี
ความหวั่นไหวต่อราคา
จำนวนสินค้าทดแทนที่มี
4. อำนาจการต่อรองของซัพพลายเออร์(Bargaining power of suppliers) – คุณกับซัพพลายเออร์ต้องพึ่งพากันเป็นหลักมากน้อยแค่ไหน
ถ้าไม่มีซัพพลายเออร์เจ้านี้ คุณสามารถอยู่ได้หรือไม่
ยกตัวอย่างเช่นโรงแรมของคุณต้องพึ่งพาOTAเป็นหลักในการหาลูกค้า ถ้าไม่มีOTAหรือOTAอยากจะเพิ่มค่านายหน้าขึ้นมา
คุณจะอยู่ได้ไหม
ปัจจัยที่มีผลต่ออำนาจการต่อรองของซํพพลายเออร์มีดังนี้
ต้นทุนในการเปลี่ยนแปลงซัพพลายเออร์
ดีกรีความต่างของสินค้าของซัพพลายเออร์แต่ละที่
ต้นทุนการผลิต
ความแตกต่างของซัพพลาย
จำนวนซัพพลายเออร์ต่อบริษัทที่ใช้บริการ
5. สภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม(Industry Rivalry) – ความเข้มข้นของการเเข่งขันเป็นอย่างไร
จำนวนคู่แข่งเยอะไหม
ยิ่งแข่งขันสูงคุณก็ต้องเพิ่มขีดความสามารถของคุณให้สูงขึ้นตาม
ไม่งั้นก็สู้เขาไม่ได้ คู่แข่งเป็นใครบ้าง มีจุดแข็งอะไรตรงไหน
ปัจจัยที่ใช้วิเคราะห์สภาพการแข่งขันมีดังนี้
ข้อได้เปรียบทางธุรกิจมีความยั่งยืนหรือไม่
การแข่งขันระหว่างช่องทางออฟไลน์ กับ ออนไลน์
งบประมาณการทำตลาด
ความมีประสิทธิภาพของกลยุทธ์
ความโปร่งใส
แบรนด์
ทั้งนี้ทั้งนั้นการประยุกต์ใช้5 Forces Modelกับธุรกิจโรงแรมอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงไปตามประเภทของธุรกิจ เช่น ข้อ5) ถ้าโรงแรมของคุณเป็นโรงแรม5ดาว
ก็ต้องเทียบกับโรงแรมประเภทเดียวกัน โดยใช้โรงแรมชนิดอื่นๆเป็นสินค้าทดแทนในข้อ2)
ขอขอบคุณ
-http://www.slideshare.net/mayurkhatri5/porters-five-forces-26443199
-https://smartfinder.asia/th/5-forces-model/
-Competitive Strategy, Techniques for Analyzing Industries and
Competitors.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น