Data Visualization
“คำพูดเป็นล้านคำ
ไม่เท่ากับภาพๆเดียว”
คุณผู้อ่านเคยรู้สึกแบบนี้บ้างหรือเปล่า
ช่วงเวลาที่มองดูรูปภาพสักรูปที่เกี่ยวกับวันสำคัญของคุณกับแฟน หรือ
รูปที่คุณถ่ายเองซึ่งก็ไม่ได้มีคุณอยู่ในรูป
แต่รู้สึกดีทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาดูหากมองดูรอบตัวเราจะพบกับภาพเยอะแยะไปหมดที่ใช้แทนคำพูด
เช่น ลูกศรชี้ทาง ป้ายห้ามจอด สัญลักษณ์ reuse
ข้างกล่องผลิตภัณฑ์ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีข้อความใดๆอธิบายบอก
แต่เราก็ทราบว่ามันหมายถึงอะไร
Data Visualization ก็เป็นสิ่งหนึ่งถูกนำมาใช้แสดงแทนคำพูด
เป็นการใช้ภาพเพื่อแสดงข้อมูลในเชิงปริมาณที่วัดได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข แผนภูมิ
กราฟ และอื่นๆอีกมากมาย คำว่า Data
คือ ข้อมูล ส่วน Visualization
คือ การมองเห็น
เมื่อนำมารวมกันแล้วหมายถึง ข้อมูลที่มองเห็นได้ด้วยตานั่นเอง
มาดูการอธิบายถึงส่วนผสมของแอลกอฮอล์กับเครื่องดื่มแต่ละชนิด ในรูปแบบตางรางธาตุ
ด้านล่าง
มีการใช้สีเพื่อบอกชนิด
ระบุตัวเลขเป็นเปอร์เซนต์เพื่อแสดงปริมาณแอลกอฮอล์
พร้อมรูปของเครื่องดื่มแต่ละชนิดที่มีสีสันสวยงามประกอบด้วย
ถ้าเราลองเขียนสิ่งที่รูปนี้อธิบายเป็นตัวหนังสือมันจะดูน่าเบื่อและทำให้รู้สึกเหมือนกำลังนั่งอ่านสือสอบกันเลยทีเดียว
ประโยชน์ของ Data
Visualization ก็คือทำให้ข้อมูลในเชิงปริมาณดูน่าสนใจ
เข้าใจง่าย เห็นภาพรวมได้ชัดเจน ง่ายต่อการจดจำ
และนิยมนำมาใช้ประกอบในการรายงาน การวิเคราะห์ สรุปผล อย่างแแพร่หลาย
ปัจจุบันมีเครื่องมือในการสร้าง
Data Visualization แบบเก๋ๆอยู่เยอะแยะเต็มไปหมด แต่จะขอนำเสนอเครื่องมือยอดนิยม 20
ค่ายให้คุณผู้อ่านได้เลือกใช้กัน
คือ iCharts, Float, Raphaël, Modest Maps, Leaflet,
Timeline, Exhibit, WolframAlpha, Visual.ly, Visualize Free, Better World Flux, jQuery
Visualize, jqPlot, Dipity, Many Eyes, D3.js, JavaScript InfoVis Toolkit, jpGraph,Highcharts และสุดท้าย Google Data Studio
ตัวอย่าง
เมื่อช่วงต้นปี 2016 ทาง Google ได้เปิดชุดวิเคราะห์ข้อมูลสร้างรายงานสำหรับทำ
Data Virtualization ฟรีคือ
Google Data Studio
Data Virtualization นั้นอาจจะยังไม่จำเป็นมากนักหากข้อมูลภายในองค์กรยังมีจำนวนไม่มาก
แต่ถ้าเมื่อไรที่ข้อมูลองค์กรมีจำนวนมหาศาล การทำ Data
Virtualization เป็นวิธีการ และเครื่องมือที่ฝ่ายบริหาร
และกลยุทธ์ต้องนำมาใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ ข้อมูลเพื่อจะได้เลือกให้ถูกว่าควรจะใช้
Data Virtualization หรือ
Big Data (ซึ่งอันที่จริงก็ใช้ได้ทั้ง 2 แบบ) แต่ถ้าในแง่ของการตลาดออนไลน์
หรือการตลาดดิจิตัล Data Virtualization อาจจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่น่าสนใจในการสร้าง
Dashboard ข้อมูลให้แก่ทีมภายใน
เอเจนซี หรือ ลูกค้าเว็บไซต์ของเราได้สบายๆ
Google Data Studio จึงเหมาะในการทำรายงานในรูปแบบ
Data Visualization แปลผลลัพธ์สถิติข้อมูลตัวเลขที่คนทั่วไปยากจะเข้าใจให้ออกมาเป็นกราฟิกเชิง
Infographic ที่นักวิเคราะห์
นักการตลาดดิจิตัล หรือผู้บริหาร สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย
ผ่านหน้าจอการจัดการเครื่องมือ (Tool) และ
แหล่งข้อมูล (Source) แบบลากวาง
ให้เราออกแบบหน้าตา Dashbord รายงานได้ตามต้องการ
โดยแนวคิดการทำงานของ Google Data Studio นั้นคือการ เชื่อมต่อ ออกแบบ
และแบ่งปัน
การเชื่อมต่อ (Connect) คือการจัดการ Source
หรือแหล่งข้อมูล พื้นฐานของ Google Data Studio นั้นจะประกอบไปด้วย
Google Analytics, YouTube Analytics, Google
Sample Data จาก BigQuery หรือ
Database ของเราเองที่มีการปล่อยข้อมูล
ในรูปแบบ API หรือ Table Data
การออกแบบ (Visualize) เป็นเรื่องของการวิเคราะห์สิ่งที่เรามีแล้วหยิบออกมานำเสนอในรูปแบบภาพกราฟิกแบบ
Infographic Dashboard ซึ่งจะต้องใช้ทักษะในเรื่องของ
UX/UI เข้ามาผสมกับการนำเสนอข้อมูลแบบมีนัยมาประกอบกัน
การแบ่งปัน (Share) คือรูปแบบของการเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ในรูปของ Data Virtualization โดยสิทธิ์ในการแบ่งปัน
หรือนำเสนอข้อมูลเหมือนการแบ่งเนื้อหาทั่วไปของ แอพพลิเคชันที่อยู่ในระบบของ Google Apps
กรณีศึกษา การนำ Google Data Studio มาใช้, เว็บไซต์ Cleothailand.com
ช่วงหนึ่งบริษัทรับเป็นที่ปรึกษาในเรื่องของ Infrastructure, แคมเปญการวิเคราะห์ Online Behavior ด้าน Customer Journey จาก Data
ของ Google Analytics และ
Conduct Survey หน้าเว็บไซต์ของ
Cleothailand.com
(สิ้นสุด
Nov 2016) กรณีศึกษาหนึ่งที่ทางทีมงานพบเจอเป็นประจำคือการออกรายงานวิเคราะห์พฤติกรรมออนไลน์เพื่อนำมา
Consult ในส่วนของ Google Analytics ซึ่งวิธีการเดิมคือการ Export หน้า Custom Dashboard แล้วใช้วิธีการประชุมเพื่ออธิบาย
และอีกกรณีหนึ่งคือการออกรายงานสถิติแบบ Custom เพื่อนำเสนอกลุ่มของเอเจนซี
หรือลูกค้าที่ต้องการดูสถิติในแต่ละ Segment และ
Metrics ที่เจาะจงแตกต่างกันไป
บางครั้งต้องอธิบายการใช้งานให้กับ Admin ของทีม
Cleothailand เกี่ยวกับการใช้งานเบื้องต้นของ
Google Analytics ทีละเมนู
ปัญหาคือ Admin ไม่ใช่คนที่เป็นนักวิเคราะห์แคมเปญ
หรือไม่ได้ชำนาญ Google Analytics เท่าไร
และบางส่วนที่ต้องสร้างจาก Custom Report Dashboard ของ
Google Analytics ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้อโฆษณาของเว็บไซต์
การออกแบบ Data Studio ของเว็บไซต์
Cleothailand.com
จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับการสร้าง Interactive
Report ในรูปแบบ Data Virtualizatio ให้กับทีมของ
Cleothailand.com
และ ลูกค้าของ Cleothaialnd.com
ที่ต้องการดูสถิติบางอย่างของเว็บไซต์
เริ่มต้นคือการเชื่อมต่อ Google Analytics เป็น Source ให้กับ Data Studio แล้วสร้าง
Project ใหม่
สร้างรายงานใหม่
เข้าระบบเชื่อมต่อ Google Account
สร้าง Data Source ใหม่จากชุดข้อมูลที่เรามี
เลือก datasource ตัวอย่างเป็น Google Analytics Account ของเว็บไซต์ที่เราดูแล
ทำการออกแบบ Dashboard
Template จาก Wireframe หรือ
Excel ที่คิดว่ากราฟที่ปรากฏนั้นถูกต้องตามที่ลูกค้าต้องการดูสถิติ
โดยวิเคราะห์ข้อมูล จับคู่ Dimension และ
Metrics ให้ดูเหมาะสม เช่น Visitor ควรอยู่กับ Bource
Rate, Location ควรอยู่กับ Avg
Time On Site เป็นต้น ไปสอบ GAIQ
ได้ครับ
Dashboard Wireframe
การออกแบบ Dashbaord สำหรับ Virtualize
เมื่อได้ Template แล้วให้ทำการ ลากวางและตั้งค่าชุดข้อมูลให้
“จำกัด”,”ชัดเจน” และ “ตรงประเด็น”
บางชุดข้อมูลสามารถใช้สูตรการคำนวณได้เช่น การทำ CTR,
CPA (Cost Per Action) เป็นต้น ตกแต่งให้สวยงามตามชุดสี (ขึ้นอยู่กับ CI ขององค์กรที่เราติดต่อ)
ตัวอย่าง
ทีมของลูกค้าที่ต้องการลงโฆษณาได้ทำการลงโฆษณาไปแล้วอยากจะรู้ว่า
บทความในวันนั้นที่ลงได้รับความนิยมแค่ไหน ก็จะทำการออกแบบ โดยการใช้ Table ตารางนำเสนอ title
ของบทความที่มีคนเข้าเยอะสุดเรียงลำดับ (ซึ่งมันจะอัพเด็ต Real Time) มาทำการนำเสนอ
ออกแบบ Page Title ที่มี
Visitors และ PageViews
สูงสุดมานำเสนอแบบ Real Time
หมายเหตุ:
ส่วนนี้อาจจะใช้สำหรับทีมภายใน ที่ต้องดูกระแสของประเด็นที่กำลัง “ปัง” ก็ได้
ในการออกแบบตามตัวอย่างนี้จุดประสงค์คือ Interactive Real-Time Dashboard Report สำหรับลูกค้าที่ต้องการรู้ข้อมูลบางส่วนของเว็บไซต์อยากจะทำการดูสถิติช่วงเวลาได้เอง
โดยที่ ทีม Admin ไม่ต้องคอย Export ใหม่ให้ตลอดเวลาให้ใส่ Component ส่วนของ Date Filter ลงไป
ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อออกแบบ Dash Board เสร็จเรียบร้อยแล้ว, ให้ทำการ Share สิทธิในการดูรายงานนี้ให้กับ
อีเมลของลูกค้า หรือผู้ที่ต้องการจะใช้รายงานนี้ในการวิเคราะห์ และตัดสินใจ ที่ Share
ปิดโหมด
Edit แล้วทำการ Share
ใส่
Email บุคคลที่ต้องการจะแชร์
เฉพาะโหมด
View สำหรับลูกค้าที่ได้รับ Email Invite สามารถดูสถิติย้อนหลังได้จาก Date Filter
จะเห็นว่า
กรณีศึกษาส่วนรายงานข้อมูลประมาณหนึ่งในการทำ Data
Virtualization สำหรับงานขายเว็บไซต์นั้นไม่ยาก
สามารถออกรายงานแบบ Interactive Report Dashboard ให้เอเจนซี
หรือ ลูกค้า ไปจนถึงผู้บริหารได้วิเคราะห์รายงานได้อย่างสะดวกผ่าน Google Account นับว่า Data Studio ของ Google
เป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนการขาย และการนำเสนอ Proposal ออนไลน์ทำได้สะดวก และเป็นแนวคิดการทำ
ให้องค์กรที่เราอยู่เป็น Digital Transformation ได้อย่าง
100%ไปทดลองใช้กันดูครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น